..............................................................................................
ก่อนจะเข้าไปข้างในก็รู้สึกถึงความสวยงามแล้วค่ะ
เข้ามาถึงไม่เท่าไหร่ ฝนก็เทลงมาต้อนรับกันอย่างดี เลยต้องนั่งรอฝนหยุด
ระหว่างรอฝนหยุดก็หันไปเห็นจิตรกรรมฝาผนังค่ะ สวยมากเช่นกัน
ฝนหยุดตกแล้วไปกันต่อดีกว่า
เดินออกมาจากที่หลบฝนดิแันก็เจอกับยักษ์ 2 ตนยืนอยู่ที่หน้าประตู
ยักษ์ 2 ตนนี้มีชื่อว่า สุริยาภพ และอินทรชิต ตามลำดับ ซึ่งจริงๆแล้วในวัดพระแก้มนั้นมียักษ์ถึง 12 ตน แต่ดิฉันเห็นเพียงสองตนนี้
วิหารแต่ละหลังมีความประณีต งดงามมากๆเลยค่ะ ขนาดดิฉันเป็นคนไทยยังประทับใจขนาดนี้
ไม่อยากจะนึกเลยนะตะว่าชาวต่างชาติจะประทับใจกันขนาดไหน
เห็นแบบใกล้ๆชัดๆ ให้รู้ถึงความประณีตของคนไทย
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระแก้ว
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗
เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออก มีพระระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ ภายหลังจากการสถาปนาแล้วก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล เพราะเป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปี คือในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และรัชกาลปัจจุบัน
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต)
พระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ หน้าตักกว้าง ๔๘.๓ ซม. สูงตั้งแต่ฐานถึงยอดพระเศียร ๖๖ ซม. ประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระราชศรัทธาสร้างเครื่องทรงถวายเป็นพุทธบูชา สำหรับฤดูร้อนและฤดูฝน
..................................................................................
No comments:
Post a Comment